“แกงเขียวหวาน” เป็นอาหารไทยประเภทแกง ที่นิยมรับประทานคู่กับข้าวสวยหรือขนมจีน มีประวัติมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เป็นภูมิปัญญาอาหารของคนไทยในสมัยก่อนที่เริ่มจากแกงเลียงและแกงป่าที่ไม่ใส่กะทิ ต่อมาได้มีการดัดแปลงโดยใส่กะทิและพริกแห้งลงไปทำให้เกิด “แกงแดง” หรือ “แกงเผ็ด” และได้มีการประยุกต์มาเป็น “แกงเขียวหวาน” ด้วยการใส่พริกสีเขียว หรือบางทีอาจจะโขลกใบพริกหรือใบผักชีลงไปเพื่อทำให้น้ำพริกมีสีเขียวมากขึ้น ดังนั้น คำว่า “แกงเขียว” จึงหมายถึงแกงที่มาจากพริกสีเขียว ส่วนคำว่า “หวาน” นั้นไม่ได้หมายถึงรสชาติ แต่หมายถึงสีของแกงที่มีสีเขียวหวาน ละมุน จึงเป็นที่มาของชื่อ “แกงเขียวหวาน” ซึ่งเป็นอาหารไทยที่ได้รับคะแนนเป็นอันดับ 19 จากการจัดอันดับ 50 อาหารยอดนิยมระดับโลก (พ.ศ. 2554) โดยเว็บไซต์ travel.cnn.com และเป็นอาหารไทยขึ้นชื่อที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
แกงเขียวหวานไก่เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ได้รับความนิยมกันมาก ในหมู่ผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นข้าวราดแกง หรือรับประทานกับขนมจีนก็อร่อยไม่น้อย ซึ่งเนื้อสัตว์ที่จะนำมาทำแกงเขียวหวาน ก็สามารถทำเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ ปลา กุ้ง ลูกชิ้นปลากราย หรือเมนูผักเพื่อสุขภาพก็ได้เช่นเดียวกัน แกงเขียวหวาน มีความหอมของพริกแกง และความหอมของเครื่องเทศ มีรสหวานมันของกะทิ นิยมรับประทานกับข้าวสวยหรือขนมจีนก็จะเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้น
คุณค่าทางโภชนาการ
พลังงาน(กิโลแคลอรี่) 113.6
โปรตีน(กรัม) 6.41
ไขมัน(กรัม) 8.04
คาร์โบไฮเดรต(กรัม) 3.85
ใยอาหาร(กรัม) 2.34
แคลเซียม(มิลลิกรัม) 41.27
เหล็ก(มิลลิกรัม) 0.72
จุดเด่นด้านคุณค่าทางโภชนาการของแกงเขียวหวานไก่
ประกอบด้วยโปรตีน ไขมัน ในปริมาณพอสมควร ใยอาหารสูง โดยมาจากมะเขือพวงและส่วนผสมในเครื่องแกง
คุณค่าของสมุนไพรไทย * ที่มา : ผศ.ดร.อัญชนีย์ อุทัยพัฒนาชีพ และคณะฯ
มะเขือพวง : เป็นยาระงับปวด ห้ามเลือด ขับปัสสาวะ รักษาโรคหลอดลม และไขข้ออักเสบ
ใบมะกรูด : ช่วยป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง
ใบโหระพา : แก้จุกเสียด ท้องอืด แน่นท้อง ช่วยเจริญอาหาร
พริกชี้ฟ้าเขียว , แดง : ช่วยเจริญอาหาร ขับลม เป็นยาระบาย ช่วยขับเสมหะ แก้หวัด
หัวหอม : ช่วยบรรเทาอาการหวัด หายใจไม่ออก
กระเทียม : ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด โรคมะเร็ง การอักเสบ รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา
ข่า : ช่วยขับลม แก้อาการแน่น จุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับเสมหะ
ตะไคร้ : ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ
รากผักชี : ช่วยขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย แก้โรคกระเพาะ
พริกไทย : ช่วยย่อยอาหาร ทำให้รู้สึกสบายท้อง ขับลม ขับเหงื่อ ลดความร้อนในร่างกาย
ยี่หร่า : ขับลม ช่วยย่อยอาหาร
ส่วนผสมแกงเขียวหวานไก่
1. เนื้อไก่ 500 กรัม
2. น้ำพริกแกงเขียวหวาน 200 กรัม
3. กะทิ 1,000 กรัม
4. หัวกะทิ 250 กรัม
5. มะเขือพวง 400 กรัม
6. พริกชี้ฟ้าเขียว , แดง 30 กรัม
7. ใบโหระพา 40 กรัม
8. ใบมะกรูด 2 กรัม
9. น้ำตาลปี๊บ 30 กรัม
10. น้ำปลา 80 กรัม
ส่วนผสมน้ำพริกแกง
1. พริกขี้หนู 30 กรัม
2. พริกชี้ฟ้า 10 กรัม
3. ตะไคร้ 15 กรัม
4. ข่า 7 กรัม
5. ผิวมะกรูด 8 กรัม
6. กระเทียม 60 กรัม
7. ลูกผักชี 5 กรัม
8. หัวหอม 40 กรัม
9. ยี่หร่า 2 กรัม
10. พริกไทย 3 กรัม
11. รากผักชี 5 กรัม
12. ใบโหระพา 20 กรัม
13. กะปิ 10 กรัม
14. เกลือ 5 กรัม
15. น้ำมัน 150 กรัม
วิธีทำแกงเขียวหวานไก่ 1. นำเนื้อไก่ เครื่องในและเลือดไก่ มาล้างทำความสะอาด จากนั้นนำเนื้อไก่ต่างๆมาหั่นให้ได้ชิ้นพอดีคำ 2. เตรียมผักต่างๆสำหรับปรุงอาหาร มะเขือเปราะล้างและ ผ่าครึ่งหั่น สี่ ชิ้น แช่ในน้ำผมสมเกลือเพื่อไม่ให้มะเขือดำ จากนั้นก็เด็ดมะเขือพวงลงไปแช่รวมกันด้วย ใบโหรพาเด็ดเอาแต่ใบล้างน้ำแล้วผึ่งในตระกร้าไว้ 3. นำหัวกะทิมาผัดกับพริกแกงให้หอม คือเริ่มจากเอาน้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ลงกระทะ จากนั้นนำพริกขี้หนูสวนที่โขลกแล้วลงไปเจียวให้หอมด้วยไฟอ่อน ตามด้วยพริกแกงลงไปผัดตาม ค่อยๆเติมหัวกะทิ ทีละทัพพี ให้ได้ 3 ทัพพี เคี่ยวให้กะทิแตกมัน (เหตุที่ใช้พริกขี้หนูด้วยก็เพื่อเพิ่มความเผ็ดหอม และไม่ให้น้ำแกงข้นเกินไปจากพริกแกงที่ใส่เยอะ) 4. จากนั้นให้ใส่ไก่ลงผัดให้พอสุก ตามด้วยเครื่องใน เติมเกลือ 1/2 ช้อนชา (ถ้าเกลือปรุงทิพย์ ให้ใส่ครึ่งช้อนชา หรือถ้าเป็นเกลือป่นสมุทร 1 ช้อนชา) ผัดให้พอสุก 5. จากนั้นให้เติมหัวกะทิส่วนที่เหลือลงไป เปิดไฟแรงให้เดือดสักพัก 6. ใส่มะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไป หมั่นคนให้มะเขือจมน้ำแกงเพื่อมะเขือจะได้ไม่ดำ ทำให้น่าทาน จนมะเขือเริ่มสุก เติมน้ำปลา น้ำตาลปิ๊ป ลงไป ชิมให้ได้รสตามต้องการ ใส่ใบโหรพา เป็นลำดับสุดท้าย คนให้ทั่ว ปิดไฟ ยกลง
7. ตักเสิร์ฟรับประทานได้เลย…ที่เป็นแกงเขียวกวานไก่รสกลมกล่อมและจัดจ้าน สามารถทานกับขนมจีนหรือข้าวสวยร้อนๆได้แล้ว คำแนะนำ - พริกขี้หนู พริกแกง เพิ่มลดตามความเหมาะสม กับวัตถุดิบ และความพอใจได้
- ควรแช่มะเขือในน้ำที่ใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อไม่ให้มะเขือดำ
- มะเขือพวงควรบุบบ้างเล็กน้อย เพื่อให้น้ำแกงเข้าไปในเนื้อมะเขือได้ แนะนำ
ชุดจนมจีนแกงเขียวหวาน DIY
Comments